Thai Hymn ก-ฃ

ไม้กางเขนโบราณ


1.บนภูเขาซึ่งอยู่ไกล
ได้แลเห็นไม้กางเขน
เป็นรอยแห่งความทุกข์และความอาย
แต่ใจข้าฯรักกางเขน
ที่พระคริสต์ถูกตรึงตาย
ไถ่คนบาปให้รอดพ้นจากอบาย


ร้องรับ:
โดยเหตุนี้ข้าฯจึงรักไม้กางเขน
เพราะว่าเป็นที่จะวางภาระลง
ข้าฯก็คงยึดกางเขนไว้ให้มั่น
แล้ววันหนึ่งจะแลกเอามงกุฎงาม


2.ไม้กางเขนโบราณนั้น
ชาวโลกพากันดูหมิ่น
แต่ข้าฯรักกางเขนยิ่งนักหนา
เพราะพระเยซูคริสตเจ้า
สละเนาในเมืองฟ้า
เสด็จมาเพื่อยอมตายบนกางเขน


3.ที่กางเขนโบราณนั้น
ข้าฯได้เห็นรัศมี
พระโลหิตพระองค์ได้หลั่งไหล
เพื่อจะได้ชำระบาป
ในตัวข้าฯให้สะอาด
นั่นแหละคือไม้กางเขนโบราณนั้น


4.ไม้กางเขนโบราณนั้น
ยึดมั่นไว้จนวันตาย
หากใครติเตียน ข้าฯไม่ละอาย
เมื่อวันหนึ่งถึงเวลา
พระองค์มารับข้าฯไป
สู่สวรรค์อยู่ที่นั่นสำราญใจ

 


โนเอลครั้งต้น


1. เทวากล่าวเรื่องโนเอลครั้งต้น
แก่คนเลี้ยงแกะยากจนในยามราตรี
เมื่อเขานอนเฝ้าฝูงแกะมากมี
หนาวสั่นกายีในราตรีมืดมัว


Refrain
โนเอลโนเอลโนเอลโนเอล!
กษัตริย์อิสราเอลประสูติแล้ว!


2. ต่างแหงนดูฟ้ามองเห็นดารา
ระยิบอยู่ไกลนักหนาเบื้องบูรพา
สว่างสุกใสส่องไปในหล้า
และเจิดจ้าอยู่ทั้งทิวาราตรี

 


โปรดนำไปถึงกางเขน


1.พระคริสต์เป็นเจ้าชีวิตของข้าฯ
ทรงเป็นสง่าราศี
อย่าให้ข้าฯลืมเรื่องมงกุฎหนาม
โปรดนำไปถึงกางเขน


ร้องรับ
อย่าให้ข้าฯลืมเกทเสมนี
อย่าให้ข้าฯลืมความทรมาน
อย่าให้ข้าฯลืมความรักอ่อนหวาน
โปรดนำไปถึงกางเขน


2.ให้เห็นอุโมงค์ของพระองค์เจ้า
ที่พวกผู้หญิงโศกเศร้า
ที่ทูตสวรรค์พิทักษ์รักษา
เมื่อบรรจุในอุโมงค์


3.อยากเหมือนมารีย์ชาวมักดาลา
ที่นำเครื่องหอมบูชา
ขอให้ข้าฯเห็นอุโมงค์ว่างเปล่า
โปรดนำไปถึงกางเขน


4.ให้ข้าฯเต็มใจแบกไม้กางเขน
ทุกวันจะแบกเดินตาม
ให้ข้าฯร่วมทุกข์กับพระเยซู
เพราะพระองค์แบกแทนข้าฯ